เชื่อไหมว่า...เราสามารถควบคุมสุขภาพตัวเองได้ แถมยังชะลอวัยไม่ให้เสื่อมหรือแก่เร็วได้ด้วย ด้วยวิธีที่สุดจะง่ายอย่างการ “เลือกกิน” เท่านั้นเอง บอกเลยว่าเคล็ดลับในการรับประทานอาหารให้มีสุขภาพที่ดีนั้น แค่ลองทำตาม 3 เคล็ดลับนี้ดู
1. กินอาหารแบบมนุษย์ยุคหิน (Paleolithic Diet)
Paleolithic Diet หรือการรับประทานอาหารแบบมนุษย์ยุคหิน ซึ่งเป็นยุคที่ยังไม่รู้จักการทำเกษตรกรรม ไม่มีสารเคมี หรือยาฆ่าแมลง อาหารจึงมาจากธรรมชาติทั้งนั้น อย่างเนื้อสัตว์ ผลไม้สดจากต้น พืชผักที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เรียกได้ว่าสดสุดๆ แน่นอนว่าถ้าเราสามารถกินอาหารในลักษณะนี้ได้ ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของการมีสุขภาพดี ต่างจากปัจจุบันที่อาหารเต็มไปด้วย Dairy Products คืออาหารที่มีส่วนผสมของนม ไข่ ชีส หรือผ่านการทอดน้ำมัน เต็มไปด้วยการปรุงแต่ง และแปรรูปอาหาร
2. เติมสิ่งขาด และไม่แพ้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
คุณหมอแนะนำเลยว่าหากต้องการชะลอความเสื่อมของร่างกาย สิ่งแรกที่ต้องทำ คือดูแลเรื่องโภชนาการ “เมื่อมีคนไข้มาปรึกษาเรื่องโภชนาการ สำหรับภายใต้การดูแลของเแพทย์นั้น ไม่ใช่เพียงเป็นโค้ชที่คอยให้แนะนำว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรทานเท่านั้น อาจต้องพิจารณาไปถึงเรื่องของการแพ้อาหารในแต่ละบุคคล อย่างการ “ตรวจการแพ้อาหารแบบแผง” (Hidden Food Allergy) เป็นสิ่งที่แพทย์ Anti-Aging ให้ความสำคัญ โดยการลงลึกไปถึงสิ่งที่แพ้ เพราะอาหารบางชนิดที่ก่อให้เกิดการแพ้มีผลทำให้มีอาการผื่นคันไม่ทราบสาเหตุ หรือมีอาการขับถ่ายไม่ปกติ บางคนท้องเสีย ท้องผูก หรือทานแล้วอาหารไม่ค่อยย่อย หรือทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ การตรวจการแพ้อาหารแบบเรื้อรังเป็นสิ่งสำคัญ เช่น บางคนดื่มนม รับประทานเบเกอรี่ คอนเฟล็ค ในวันที่รับประทานไม่แพ้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ มีภาวะบวมน้ำ มีผื่น จึงเป็นเหตุที่สำคัญว่า Anti-Aging เป็นการแพทย์ที่มุ่งเน้นดูแลรักษาที่ต้นเหตุ เพื่อการป้องกันอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนไข้อย่างสูงสุด”
3. ปรับโภชนาการอาหารตามไลฟ์สไตล์
สำหรับคนที่อยากสุขภาพดี แต่ไม่ชอบกินผัก ผลไม้ แพทย์สามารถดูแลสุขภาพได้มากกว่าด้วย “การตรวจภาวะโภชนาการเพื่อประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์” (Vitamin & Micronutrient Program) เช่น ตรวจระดับวิตามินแร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อเพิ่มวิตามินที่ขาดและสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นการตรวจที่ละเอียด สามารถแสดงให้ทราบถึงปริมาณของวิตามินต่างๆ เช่น เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ว่าขาดหรือเกิน อาทิ กรณีที่ขาด แต่คนไข้ไม่ชอบมะเขือเทศ หมอจะเลือกสิ่งอื่นมาดทดแทนตามวิถีชีวิต หรือแม้แต่ในรายที่วิเคราะห์แล้วไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินเสริม แต่สามารถดูแลได้ด้วยโภชนาการ หมอจะส่งให้นักกำหนดอาหารเป็นผู้ดูแลเพิ่มเติม
ดังนั้นนอกจากการดูแลตนเองที่คนส่วนใหญ่เน้นคือ การดูแลภายนอก (Outside In) เวชศาสตร์ชะลอวัยจึงส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของ (Inside out) สิ่งที่เราทำเป็นประจำในการนำเข้าสู่ร่างกาย เช่น การรับประทานอาหาร อากาศที่หายใจ เป็นต้น เพราะหากเราเลือกดูแลนำสิ่งดีๆ เข้าสู่ร่างกาย ย่อมมีประโยชน์และคุ้มค่ากับชีวิตของเราทุกคน
#ชะลอวัย #antiaging #เวชศาสตร์ชะลอวัย #โภชนาการอาหาร
บทความจาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
PWA LIFE CENTER PHYATHAI 3 HOSPITAL
โทร. 02-467-1111 ต่อ 1420
Comments