มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ภัยร้ายที่กำลังมาแรงสำหรับคนไทยที่เริ่มมีวิถีชีวิตค่อนไปทางสังคมชาวโลกตะวันตกมากขึ้นทุกวัน จากสถิติผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ของบ้านเราในปี พ.ศ. 2551 พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนักรายใหม่กว่า 9,000 ราย พบบ่อยเป็นอันดับ 3 ในภาพรวมทั้งสองเพศ แต่เมื่อพิจารณาแยกเพศแล้ว เพศชายมีแนวโน้มเป็นโรคนี้มากกว่าเพศหญิง โดยพบบ่อยเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ แนวโน้มที่พบมีเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกับมะเร็งเต้านม
ด้วยเหตุนี้ จึงได้เวลามาพูดเน้นกันเฉพาะเรื่องสัญญาณอาการอันตรายที่พบบ่อยของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก เริ่มด้วยสัญญาณที่ 1
ปวดท้องเป็นพักๆ ลักษณะการปวดเป็นแบบมีช่วงปวดสลับกับช่วงหายปวด ตามจังหวะการบีบตัวของลำไส้ที่บีบตัวตามปกติ เนื่องจากอุจจาระผ่านตำแหน่งที่มีเนื้องอกได้ยากลำบากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวดเป็นพักๆ เมื่อก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่มากขึ้น อุจจาระก็ยิ่งผ่านบริเวณนั้นได้ลำบากมากขึ้น อาการปวดจะรุนแรงขึ้น และปวดบ่อยขึ้น สัญญาณที่ 2
มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย นอกจากอาการปวดท้องอย่างที่ว่ามาแล้ว การขับถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติไปจากเดิม คือมีอาการท้องผูกต่อเนื่องกันหลายวัน สลับด้วยการถ่ายอุจจาระเหลวลักษณะมีมูกปนมากับอุจจาระ ลักษณะอุจจาระแบบนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นท้องเสียจากการติดเชื้อ แต่อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนักไม่ได้มีแต่อาการท้องเสียอย่างเดียว แต่สลับด้วยอาการท้องผูกถ่ายลำบาก จากการที่รูของลำไส้ใหญ่แคบลงจากก้อนเนื้องอกที่โตเข้ามาในลำไส้ ส่วนมูกนั้นเกิดจากเซลล์มะเร็งสร้างมูกจำนวนมากเข้ามาในลำไส้
ต่อด้วยสัญญาณที่ 3 ที่เกี่ยวเนื่องกันคือ อุจจาระเป็นมูกปนเลือด คือนอกจากจะมีมูกปนในอุจจาระแล้ว มักมีเลือดปนมากับมูก และอุจจาระด้วย เนื่องมาจากตัวเนื้องอกมะเร็งลำไส้ใหญ่ และทวารหนักนั้น นอกจากมีลักษณะเป็นก้อนแล้ว มักมีแผลแตกบริเวณก้อนร่วมด้วย ทำให้มีเลือดออกมาจากแผลนั้นเป็นระยะ สัญญาณที่ 4 ขนาดของลำอุจจาระเล็กลง ในช่วงที่อุจจาระไม่เป็นมูกเหลว หากสังเกตขนาดของลำอุจจาระจะพบว่า ขนาดเล็กลงโดยลำดับจากการที่รูของลำไส้ใหญ่แคบลง ดังนั้นสัญญาณที่ 3 และ 4 นั้น รู้ได้จากการสังเกตลักษณะอุจจาระ เพราะฉะนั้นก่อนจะกดชักโครก ก็หมั่นสังเกตลักษณะอุจจาระของตัวเองทุกครั้ง สัญญาณที่ 5 อาการพิเศษเฉพาะของมะเร็งทวารหนักนั่นคือ อาการรู้สึกปวดถ่ายอยากเข้าห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่ถ่ายแล้วไม่ค่อยมีอะไรออกมา มีอาการเหมือนถ่ายไม่สุด เนื่องมาจากการมีก้อนเนื้องอกในทวารหนัก ทำให้ร่างกายมีความรู้สึกเหมือนมีอุจจาระในทวารหนัก จึงเกิดอาการปวดอยากถ่ายอุจจาระอยู่ตลอดเวลา
ใครที่เริ่มมีอาการ 5 สัญญาณอันตรายอย่างที่ว่า ก็อย่านิ่งดูดาย รีบไปพบแพทย์ให้ตรวจละเอียดเพิ่มเติม เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที
บทความจาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
โทร. 02-202-6800
Comments