เมื่อพูดถึงการชะลอวัย คนทั่วไปมักนึกถึงเพียงการรักษาผิวให้ดูดีมีความเปล่งปลั่ง ใบหน้าสดใสไม่เหี่ยวย่น แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงการชะลอวัยที่เริ่มจากการมีสุขภาพดีจากภายใน นั่นคือ “การชะลอวัยในระดับเซลล์” ซึ่งเป็นการบำรุงดูแลอวัยวะและระบบในร่างกายให้แข็งแรง เสื่อมช้าลง ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่การจะเป็นแบบนั้นได้ คนๆ นั้นจะต้องมีภาวะฮอร์โมนที่สมดุล นี่คือที่มาที่ต้องใช้ความรู้ในทางการแพทย์เข้ามาดูแล
เมื่อฮอร์โมนลดลง
โดยทั่วไปแล้ว ฮอร์โมนของคนเราจะเริ่มลดลงตั้งแต่อายุ 35 ปีเป็นต้นไป เมื่อถึงเวลานั้นร่างกายก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนรู้สึกได้ เช่น รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าตอนเป็นหนุ่มสาว อ่อนเพลีย นอนหลับยาก และที่เห็ดชัดที่สุดคือ ความเหี่ยวย่นของผิวหนัง และริ้วรอยที่เกิดขึ้น จากที่เคยกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนก็เริ่มอ้วนง่าย มีพุง ตัวใหญ่ขึ้น ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนี้เองที่พรากความอ่อนเยาว์ และทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว
อนุมูลอิสระที่ต้องเผชิญ
เพราะในแต่ละวัน เราต้องเผชิญกับมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม สารตกค้างจากอาหาร ความเครียด รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่วุ่นวายสับสน ไม่มีเวลาดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย หรือกินอาหารที่มีประโยชน์ แถมยังพักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนหลับไม่สนิท สิ่งเหล่านี้เองทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ และอวัยวะต่างๆ อย่างรวดเร็ว อันที่จริงร่างกายของเราก็มีสารต้านอนุมูลอิสระไว้คอยจัดการกับเจ้าสารอนุมูลอิสระเหล่านี้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายก็ผลิตสารต้านอนุมูลอิสระได้น้อยลง แถมฮอร์โมนก็ลดลงด้วย ร่างกายทุกส่วนจึงเกิดความเสื่อม และแสดงเป็นอาการต่างๆ เช่น ปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดไหล่ รู้สึกอ่อนเพลียง่าย อารมณ์ไม่ดี และเริ่มมีริ้วรอยที่ชัดขึ้น
ป่วยเพราะฮอร์โมนและสารอนุมูลอิสระ
หลายคนที่ป่วยเรื้อรัง ป่วยบ่อย เพราะไม่ได้แก้ไขที่ฮอร์โมนและอนุมูลอิสระต้นเหตุแห่งความเสื่อม อย่างเช่นผู้ที่มีปัญหาปวดศีรษะเรื้อรัง หลับไม่สนิท ตื่นมาก็ปวดไหล่ ปวดบ่า ปวดหลังส่วนบน และมีน้ำหนักตัวที่ขึ้นผิดปกติ หรือการใช้ชีวิตที่ดูไม่สดชื่น ไม่ค่อยมีแรง ขี้ลืม ซึ่งการตรวจสุขภาพทั่วไปก็มักไม่พบความผิดปกติ จึงรักษาไปตามอาการเท่านั้น แต่เมื่อทำการตรวจเลือดเพื่อประเมินภาวะความเสื่อมของร่างกาย ทั้งระดับฮอร์โมน สารต้านอนุมูลอิสระ สารบ่งอักเสบ และสารบ่งชี้มะเร็งแล้วกลับพบว่า มีความไม่สมดุลของฮอร์โมนในระดับที่รบกวนการเผาผลาญของร่างกาย ระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อผิดปกติจากสารอนุมูลอิสระที่สะสมในร่างกาย และเมื่อผนวกกับความเครียด ไลฟ์สไตล์ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย นอนดึก ชอบกินของทอด ของมัน ของหวาน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งจำเป็นต้องรักษาให้ถูกจุด เพราะการรักษาให้ร่างกายกลับมาแข็งแรง ดูดี มีความสมดุลย่อมทำให้ได้คุณภาพชีวิตดีกลับคืนมา
การรักษาด้วยฮอร์โมนและวิตามินในแบบของคุณ
เมื่อเราเข้ารับการตรวจเลือด ผลที่ได้จะนำมาประเมินความเสื่อมของร่างกาย จะทำให้เรารู้ว่าผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาที่จุดไหน เริ่มตั้งแต่การปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ทั้งการกิน การนอน การออกกำลังกาย และความคิด โดยใช้แนวปฏิบัติที่เรียกว่า “Personalized Design” คือการให้ฮอร์โมน สารอาหาร และวิตามินอันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะมาแก้ปัญหาของคนไข้รายบุคคล หรือ “Personalized Hormone & Supplements” โดยผลิตมาเฉพาะคนๆ นั้น เมื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุด อาการที่เคยเป็นก็จะดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดศีรษะ ปวดบ่า-ไหล่ก็จะหายไป นอนหลับได้สนิทขึ้น ตื่นมาอย่างสดชื่น ไม่รู้สึกเพลียหรือเหนื่อย แถมอารมณ์ก็ไม่หงุดหงิดเหมือนเดิม ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เพราะการดูแลคนไข้ด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัยไม่ใช่แค่การรักษาอาการเจ็บป่วยให้หายดีเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยให้เขาเหล่านั้นปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตไปในทิศทางที่ดีต่อสุขภาพกายและใจ ในทางที่จะชะลอความเสื่อมของเซลล์ และความชราของร่างกายจนปรากฏให้เห็นว่า ผู้ที่ได้รับการรักษาจะมีผิวพรรณที่ดีขึ้น รูปร่างกระชับ กล้ามเนื้อแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส และสติปัญญาที่ฉับไวขึ้น จนน่าจะเรียกได้ว่า "ชะลอวัย เปลี่ยนชีวิต" ได้เลยทีเดียว
บทความจาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย
โรงพยาบาลพญาไท 1
โทร. 02-201-4600 ต่อ 3465, 3466
