เพราะโลกไม่ได้ร้อนแค่อุณหภูมิ แต่แสงแดดที่แผดเผา..ยังก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการสร้างเม็ดสี ส่งผลให้สีผิวดำคล้ำ คุณภาพผิวที่ดีลดลง โดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย เพราะฉะนั้น ถ้าจะถามว่าสิ่งใดคือปัจจัยทำร้ายผิวพรรณ ทำให้ผิวดูไม่เปล่งปลั่ง คงตอบได้เลยว่า..มาจากตัวการสำคัญที่เรียกว่า “วัยและแสงแดด” นั่นเอง!
ปกป้องและดูแลผิวอย่างล้ำลึกด้วยวิตามิน
ผิวโดนทำร้ายได้จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งบางสิ่งเราก็ไม่สามารถป้องกันได้ ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถทำได้ คือ การบำรุงดูแลสุขภาพผิว และเป็นที่ทราบกันดีว่า “วิตามินและแร่ธาตุ” หลายชนิดมีประโยชน์กับผิวเป็นอย่างมาก โดยในปัจจุบันแพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่ได้นำ “แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)” มาเป็นตัวช่วยในการดูแลผิวพรรณ หรือเรียกได้ว่า แอสตาแซนธิน คืออีกหนึ่งในสุดยอดสารอาหารสำหรับผิวที่โดดเด่นอย่างมาก
องค์ประกอบหลัก Astaxanthin Plus คือ Astaxanthin ซึ่งเป็นสาหร่ายแดงที่พบได้ตามธรรมชาติ (Haematococcus Pluvialis) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี และทรงพลังมากที่สุดในโลก (Ling of Antioxidants) อนุมูลอิสระคือสิ่งที่ทำให้เซลล์และร่างกายเสื่อมชรา ได้แก่ แสงแดด ควันบุหรี่ ความเครียด สารพิษ มลภาวะ อาหารที่ทำลายสุขภาพ การพักผ่อนไม่เพียงพอ พันธุกรรม รังสียูวี และแอลกอฮอล์ ซึ่ง Astaxanthin มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินซีถึง 6,000 เท่า มากกว่า CoQ10 ถึง 790 เท่า มากกว่า Resvereatrol ถึง 3,000 เท่า และมากกว่า Curcumin ถึง 1,500 เท่า จึงสามารถปกป้องเซลล์ และ DNA จากการอักเสบได้อย่างทรงพลัง ซึ่งมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้การรับรอง
นอกจาก แอสตาแซนธิน ยังมีวิตามินและสารอาหารอีกหลายชนิดที่มีประโยชน์กับการดูแลผิว เช่น
> สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมของ
คอลลาเจนอีลาสติน ผนังหลอดเลือดต่างๆ ปกป้องเซลล์ผิว ยับยั้งเอนไซม์ทำลายคอลลาเจนใต้ผิว สาเหตุ
ของริ้วรอยก่อนวัย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีความยืดหยุ่น กระจ่างใส ทั้งยังปกป้องผิวจากรังสียูวี ป้องกัน
ริ้วรอย ฝ้า กระ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และปกป้องเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย
> Pycnogenol (Pine Bark Extract) สารสกัดเปลือกสนมาริไทม์ จากประเทศฝรั่งเศส ช่วยต้านอนุมูล
อิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยเสริมการทำงานของวิตามิน C และวิตามิน E ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่ม
ความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยเสริมในการสร้างยีนคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) ที่ช่วยเรื่องผิวหน้าตึง
กระชับ ผิวยืดหยุ่น ปกป้องการทำลายและเสื่อมสลายของเส้นใยคอลลาเจนของผิวจากอนุมูลอิสระ และสร้าง
สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีผลเกี่ยวกับช่วยลดปัญหาริ้วรอย ร่องลึก อีกทั้งยังช่วยต่อ
ต้านการผลิตเม็ดสีเมลานิน ผิวกระจ่างขาวใส
> กรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha Lipoic Acid) สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง เป็นตัวช่วยเพิ่ม
ประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C วิตามิน E กลูต้าไธโอน และโคเอนไซม์คิว 10
เป็นต้น
> สารสกัดจากทับทิม (Pomegranate Extract) ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวใหม่ ช่วย
ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปสู่ผิวหนัง ช่วยปกป้องผิวหนังจากแสงแดด ช่วย
ป้องกันการเกิดฝ้า กระ และโมเลกุลของสารในทับทิมจะช่วยปกคลุมผิว ทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น
> Coenzyme Q10 (Ubiquinone) เป็นสารคล้ายวิตามินที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มพลังงานให้
แก่เซลล์ เสมือนเป็นขุมพลังงานของเซลล์ทั่วร่างกาย เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง มีคุณสมบัติ
ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ริ้วรอยที่เป็นดูจางลง ถนอมผิวพรรณให้ดูสดใส
เปล่งปลั่ง และมีประสิทธิภาพในการช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว
สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารสำหรับผิว ได้ทราบข้อมูลข้างต้นคงต้องร้อง ว้าว! เจ๋งอ่ะ! อย่างแน่นอน แถม ส่วนประกอบต่างๆ ไม่ได้มีประโยชน์แค่เพียงผิวพรรณ แต่มีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพด้วย เรียกว่าได้ ประโยชน์แบบคูณสองกันเลยทีเดียว
#ดูแลผิว #ชะลอวัย #สุขภาพ #สุขภาพผิว #Revitalskin
บทความจาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โรงพยาบาลพญาไท 2
โทร 02-617-2444 ต่อ 3857
