ตกขาว อาจทำให้ผู้หญิงเกิดการตกใจ รู้สึกผิดปกติ และเกิดการกังวลถึงโรคต่างๆ แต่ที่จริงแล้วตกขาวนั้นเป็นอาการของผู้หญิงที่สามารถเกิดได้ตามปกติ เป็นของเหลวที่ไหลออกมานอกช่องคลอด แต่ในบางครั้งตกขาวของผู้หญิงก็สามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติได้เช่นกัน โดยแสดงออกผ่านลักษณะของตกขาว สี หรือกลิ่น ซึ่งในบางครั้งเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม
เรามาทำความรู้จักตกขาวกันก่อนดีกว่า โดยทั่วไป ตกขาวในลักษณะปกติ จะมีสีใส หรือขาวปนบ้างเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น อาจมาในช่วงก่อนหรือหลังประจำเดือน หากพบการตกขาวแบบนี้ไม่ต้องกังวล เพราะไม่เป็นอันตราย สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติ แต่ถ้าหากเกิดมี ตกขาวผิดปกติ ได้แก่ มีกลิ่นเหม็น กลิ่นคาว มีสีเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น น้ำตาล เขียว หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คัน ปวดท้อง มีไข้ แสบร้อนบริเวณช่องคลอด ถือว่าเป็นตกขาวที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อของแบคทีเรีย เชื้อรา หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ลักษณะของตกขาวที่เปลี่ยนไป และอาการแสดงเบื้องต้นของตกขาว
> ตกขาวสีเขียว มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน
> ตกขาวสีชมพู อาจเป็นการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกหลังคลอด
> ตกขาวสีขาวขุ่น เป็นอาการของเชื้อรา อาจมีการคันร่วมด้วย หรือแสบร้อนบริเวณช่องคลอด และแสบร้อน ขณะมีเพศสัมพันธ์
> ตกขาวแบบมีเลือดปน มีสีอมน้ำตาล มีอาการเจ็บปวดขณะปัสสาวะ และขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเกิดจาก ประจำเดือนมาไม่ปกติ มะเร็งเยื่อบุมดลูก หรือมะเร็งปากมดลูกได้
ความผิดปกติของตกขาวสามารถเกิดได้ทั้งในเด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ หากพบอาการผิดปกติของตกขาวในลักษณะใดก็ตาม ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของการเกิดตกขาวผิดปกติ ซึ่งแพทย์จะทำการรักษาตามขั้นตอน โดยจะซักประวัติสุขภาพ การเจ็บป่วยที่ผ่านมา หรือที่เป็นอยู่ ประวัติการมีเพศสัมพันธ์ และสอบถามเกี่ยวกับอาการตกขาวที่พบ เพื่อรักษาตามอาการได้ และสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ควรเข้ารับการตรวจภายในเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจหาสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และสามารถรักษาได้ทันเวลา เพราะตกขาวคือเรื่องสำคัญของผู้หญิง
บทความจาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา
โทร 02 006 9999
