เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า การสูบบุหรี่ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ที่สูบบุหรี่มาเป็นเวลานาน อาจไม่พบอาการผิดปกติอะไรที่เห็นชัดเจน แต่ความจริงแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่อวัยวะต่างๆ ในร่างกายอย่างช้าๆ หากปล่อยจนเกิดอาการ แสดงว่าโรคอาจจะดำเนินไปไกลแล้ว ดังนั้นจึงควรใส่ใจสุขภาพของตนเองอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถปรึกษาแพทย์ได้ ตั้งแต่ก่อนเริ่มมีอาการ
อาการผิดปกติเบื้องต้นที่ควรมาพบแพทย์
> มีอาการระคายเคืองทางเดินหายใจอย่างสม่ำเสมอ
> ไอเรื้อรัง
> ไอมีเสมหะ หรือมีเลือดปน
> มีอาการเจ็บบริเวณหน้าอก
> เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
โรค หรือความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่มีอะไรบ้าง และหากมาพบแพทย์จะได้รับการตรวจอะไรบ้าง?
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือ โรคถุงลมโป่งพอง
ผู้สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 6 เท่า จึงควรได้รับการตรวจร่างกาย ดังต่อไปนี้
> ถ่ายภาพเอ็กซเรย์รังสีทรวงอก (Chest X-ray)
> ตรวจสมรรถภาพปอด (PFT : Pulmonary Function Test)
> ตรวจความอิ่มตัวของออกซิเจนในเม็ดเลือด
โรคมะเร็งปอด (Lung Cancer)
ผู้สูบบุหรี่จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ 10 เท่า ควรได้รับการตรวจร่างกาย ดังต่อไปนี้
> ถ่ายภาพเอกซเรย์รังสีทรวงอก (Chest X-ray)
> ตรวจสมรรถภาพปอด (PFT : Pulmonary Function Test)
> เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ทรวงอก (CT-Scan) ในกรณีที่พบความผิดปกติจากการตรวจรังสีทรวงอก
> ตรวจเลือดหาค่าสารบ่งชี้มะเร็ง (CEA)
> ตรวจความอิ่มตัวของออกซิเจนในเม็ดเลือด
โรคหลอดเลือดและเส้นเลือดหัวใจ
ผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ 2 เท่า ควรได้รับการตรวจร่างกาย ดังต่อไปนี้
> ถ่ายภาพเอ็กซเรย์รังสีทรวงอก (Chest X-ray)
> ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiography : EKG)
> ตรวจสมรรถภาพปอด (PFT : Pulmonary Function Test)
> ตรวจหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Ankle Brachial Index : ABI)
> ตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ดูหลอดเลือดหัวใจ (CT-Scan) ในกรณีที่พบความผิดปกติกจาการ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
การพบแพทย์และตรวจร่างกาย จะเป็นการช่วยดูแลสุขภาพของผู้สูบบุหรี่ และเฝ้าระวังโรคร้ายแรงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น จนเป็นปัญหาและรบกวนการดำเนินชีวิตได้ แต่แนวทางที่ดีที่สุด คือ การเลิกสูบบุหรี่
หากต้องการจะเลิกบุหรี่ ควรทำอย่างไร
ต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ทั้งจากตนเอง และคนรอบข้าง โดยพยายามสร้างแรงจูงใจให้อยากเลิกบุหรี่
ทำพฤติกรรมบำบัด โดยทั้งอุปกรณ์การสูบ ออกกำลังกาย หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายความเครียด
หากเลิกไม่ได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาช่วย ซึ่งมีประสิทธิภาพในการเลิกบุหรี่ประมาณ 40-60%
คนรอบข้างควรติดตาม และให้กำลังใจ เพื่อป้องกันการกลับไปสูบใหม่
หากเลิกบุหรี่แล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือไม่
ผู้ที่สูบบุหรี่ทุกคนสามารถเลิกบุหรี่ได้ ถ้าได้รับคำแนะนำและกำลังใจที่ดี อาจจะมีผลข้างเคียงบ้าง เช่น มีอารมณ์หงุดหงิด วิตกกังวล นอนไม่หลับ น้ำหนักตัวเพิ่ม หากเกิดอาการเหล่านี้ แนะนำให้ดื่มน้ำเย็นๆ หายใจเข้าออกลึกๆ ในเวลาที่รู้สึกหงุดหงิด ออกกำลังกาย และควบคุมอารมณ์ เพราะหลังจากหยุดบุหรี่แล้ว จะทำให้รับประทานอาหารได้มากขึ้น โดยอาการต่างๆ เหล่านี้จะหายไปภายใน 3-4 วัน
เพื่อสุขภาพที่ดีของท่าน อย่าลืมใส่ใจดูแลสุภาพ ปรึกษาแพทย์ได้ตั้งแต่ก่อนมีอาการ
บทความจาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์โรคระบบทางเดินหายใจและปอด
โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา โทร 02-793-5099
Comentários