ณ เวลานี้…คนทั้งโลกกำลังรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ ก็คือ การป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ และวิธีการที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ก็คือ “การล้างมือ” แรกๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอล้างไปบ่อยๆ เข้ามือก็เริ่มแห้งแตก ทีนี้จะทำไงดี มาดูคำตอบกัน
ล้างมืออย่างไรให้ปลอดภัยจากเหล่าเชื้อโรค
> ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ และต้องฟอกถูอย่างน้อย 20 วินาที โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในที่สาธารณะ หรือ หลังจากมีอาการไอจาม หรือสัมผัสสารคัดหลั่ง
> หากไม่สามารถล้างมือด้วยสบู่และน้ำ ก็สามารถใช้แอลกอฮอล์เจลล้างมือแทนได้ แต่ควรมีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ตั้งแต่ 70% ขึ้นไป
> หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับตา จมูก และปาก หากยังไม่ได้ล้างมือ
ล้างมือตาม WHO นี่แหละ! ถูกวิธี
> ใช้ฝ่ามือถูฝ่ามือ
> ใช้ฝ่ามือถูหลังมือ และซอกนิ้วทั้ง 2 ข้าง
> ประกบฝ่ามือถูซอกนิ้ว
> กำเป็นกำปั้น ใช้ฝ่ามือถูหลังนิ้ว
> กำเฉพาะหัวแม่โป้งแล้วหมุนทั้ง 2 ข้าง
> ขัดฝ่ามือ และร่องฝ่ามือด้วยปลายนิ้ว
> หมุนรอบข้อมือ
> เช็ดมือด้วยกระดาษที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง
> ใช้กระดาษจับเพื่อปิดก๊อกน้ำแล้วทิ้ง
แต่หลังจากที่ผู้คนจำนวนมากตื่นตัวหันมาล้างมือ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลกันบ่อยขึ้น ปัญหาที่ตามมาก็คือ เกิดผื่นแพ้ที่มือเรื้อรัง มีตุ่มน้ำใสที่มือ เกิดโรคสะเก็ดเงินที่มือ หรือในคนที่มีผิวปกติไม่ได้เคยมีปัญหาทางผิวหนังมาก่อน ก็อาจเกิดภาวะผิวแห้ง และทำให้มือแห้งและแตกตามมา
ทำไมการล้างมือ ถึงทำให้ผิวแห้ง
การล้างมือบ่อยๆ และการใช้สารแอลกอฮอล์เจลสามารถกำจัดเชื้อไวรัส และลดความเสี่ยงต่อโรคติดต่อได้จริง แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อผิวหนัง โดยเฉพาะหนังกำพร้าชั้นนอกสุด (Stratum Corneum) โดยโครงสร้างของโปรตีนและไขมันสำคัญในชั้นหนังกำพร้าจะเสียไป เหมือนเราสูญเสียเกราะป้องกันสำคัญของผิวหนัง จึงเกิดการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนัง น้ำที่ใช้ล้างมือเองก็มีผลทำให้ผิวแห้ง จากการชะล้างน้ำมันธรรมชาติของผิวหนังออกไปเช่นกัน การล้างมือบ่อยๆ จึงมีโอกาสทำให้มือแห้งกร้าน ผิวหนังอักเสบ แห้ง แดง คัน มีขุย บางครั้งอาจแตกเป็นแผล บางรายที่มีอาการรุนแรงอาจจะมีตุ่มน้ำใสที่มือและข้างนิ้ว (Dyshidrosis) และเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อที่ผิวหนังตามมาได้
รักษาสมดุลของผิวแบบนี้…ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ
> หลังล้างมือควรซับมือให้แห้งทันที
> ใช้ครีมบำรุงผิวทันทีหลังการใช้แอลกอฮอล์เจล หรือหลังการล้างมือและซับมือแล้ว
> เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน โดยแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ชนิดเนื้อครีม หรือขี้ ผึ้งแทนโลชั่น เพราะว่าโลชั่นมีส่วนประกอบของน้ำมาก จึงเกิดการระเหยออกได้ง่าย อาจให้ความชุ่มชื้นได้ไม่ดี เท่าที่ควร
> หากผิวหนังมีขุย หรือแห้งแตกมากควรใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อขี้ผึ้ง หรือ Plain Petrolatum เคลือบบริเวณที่แห้ง แตก
> โลชั่นและครีมบางชนิดมีส่วนผสมของสารกันเสีย น้ำหอม และตัวทำละลายบางชนิด อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองได้ในบางคน แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์สูตร Hypo-Allergenic แทน หรือหมั่นสังเกตอาการ 1 สัปดาห์หลังเริ่มใช้
> ผู้ที่มีปัญหาทางผิวหนังอยู่เดิม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์
> ควรเลือกใช้สบู่เหลวมากกว่าสบู่ก้อน เนื่องจากค่า pH ที่เป็นด่างของสบู่ก้อนโดยส่วนใหญ่ไม่เหมาะกับสภาพ ผิว
> ไม่ควรล้างมือด้วยน้ำอุ่นจัด เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
> หากมีอาการมากควรปรึกษาแพทย์ และอาจมีความจำเป็นต้องใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Corticosteroid ในบาง ราย ซึ่งการบำรุงดูแลผิวที่ดีอย่างสม่ำเสมอสามารถลดอัตราการใช้ยาได้ กรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ ผิวหนังจากบริเวณที่เป็นแผลอาจได้รับยาต้านเชื้อแบคที่เรียร่วมด้วย
นอกจากการต่อสู้กับเชื้อโรคในทุกวันนี้แล้ว ทุกๆ คนก็ควรที่จะใส่ใจการดูแลผิวควบคู่กันไปด้วย เพื่อสุขอนามัยที่ดี ปลอดเชื้อ และมีสุขภาพผิวที่แข็งแรง ด้วยความปรารถนาดี
บทความจาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
แพทย์ศูนย์ผิวหนังและความงาม
โรงพยาบาลพญาไท 3
โทร 02-467-1111
Comments